วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ดอกราตรี




ดอกราตรี





ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cestrum nocturnum
วงศ์ : SOLANACEAE (The Tomato Family หรือ The Nightshade Family)
ชื่อสามัญ : Night Hessamine, Queen of the Night
ชื่ออื่น ๆ : ดอกหอมดึก, หอมดึก


ลักษณะทั่วไป

ดอก : ออกเป็นช่ออยู่ตามส่วนยอดและตามโคนก้านใบ ช่อหนึ่ง ๆ จะมีดอกจับกลุ่มกันอยู่มากมาย ซึ่งดอกราตรีนี้จะมีขนาดเล็กมากโตประมาณ ๐.๕ เซนติเมตร และยาว ๒ เซนติเมตร ตรงปลายดอกจะแยกออกเป็น ๕ แฉก คล้ายกับรูปดาว ดอกมีสีขาวอมเขียวอ่อน ๆ จะมีกลิ่นหอมมาก ๆ ก็ในเวลากลางคืนเท่านั้น พอเช้ากลิ่นก็จะจางหายไป และจะมีกลิ่นอีกทีก็ตอนกลางคืน จึงได้ชื่อว่า "ดอกราตรี"


ใบ : เป็นไม้ใบเดี่ยว ออกใบดกมาก เป็นพุ่มหนาทึบมีสีเขียว ลักษณะของใบเป็นรูปหอก ปลายใบและโคนเรียวแหลม ยาวประมาณ ๑๒-๑๕ เซนติเมตร เมื่อเด็ดใบดูจะมีกลิ่นเหม็นเขียว
ต้น : ราตรีเป็นพรรณไม้พุ่มยืนต้นขนาดย่อมที่จะแตกกิ่งก้านสาขาออกมามากมาย ลำต้นสูงประมาณ ๒-๔ เมตร มีเปลือกสีขาวหรือสีเทาอ่อน ๆ




การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ชอบแสงแดดจัด และเจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิดโดยไม่เลือกดินแต่ต้องมีการระบายน้ำดี ต้องการน้ำปานกลาง ขยายพันธุ์การปักชำ

โทษ : ใบมีสาร steroid sapogenin มีพิษต่อหัวใจ ผลดิบมีสารชื่อ solanine ทำให้ท้องร่วงและอาเจียนอย่างรุนแรง ผลสุกมีสารชื่อ atropine ทำให้วิงเวียน ปวดศรีษะ ใจสั่น ประสาทหลอน ม่านตาขยาย ปากแห้ง หลับ ถ้ารับประทานอาจถึงตายได้

การเป็นมงคล
นอกจากจะมีกลิ่นหอมชื่นใจยังให้ความ เป็นสิริมงคลดีมาก ยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้ปลูกร่ำรวยยิ่งขึ้นอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น